แผนบำรุงรักษารูปแบบต่างๆที่ใช้ในโรงงาน
การบำรุงรักษาประเภทต่างๆ ข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร
แม้ว่าการบำรุงรักษาเชิงป้องกันและการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์จะมีบทบาทสำคัญในการดูแลอุปกรณ์ของคุณให้ทำงานได้ดี แต่ทั้ง3ประเภทนี้มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง แบบไหนเหมาะกับโรงงานของคุณมากกว่ากัน? มาดูข้อดีและข้อเสียกัน
การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์
การบำรุงรักษาเชิงรุก

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
Preventive Maintenance หรือ การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน คือการวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นระบบเป็นระยะๆ เหมือนกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องของรถยนต์ เมื่อถึงเวลาหรือรอบการใช้งาน ที่ควรเปลี่ยน แม้ว่าน้ำมันอาจจะยังใช้งานได้อีกระยะหนึ่ง แต่คุณก็ไม่ต้องการรอจนกว่าน้ำมันจะเสื่อมสภาพก่อนที่จะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องออก
เพราะอุปกรณ์มีแนวโน้มที่จะเสียหายเมื่อมีอายุการใช้งานเพิ่มขึ้น แนวคิดนี้จึงเน้นให้ทำการบำรุงรักษาเป็นประจำเพื่อป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น
ข้อดี: | ข้อเสีย: • ต้องใช้แรงงานเพิ่มเติม เนื่องจากการบำรุงรักษาจะทำตามช่วงเวลาที่กำหนด ไม่ใช่ตามความจำเป็น • ช่างเทคนิคต้องระมัดระวังในการปรับแต่งเฉพาะที่จำเป็นเพื่อป้องกันค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น • อาจมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เนื่องจาก เปลี่ยนก่อนที่ชิ้นส่วนนั้นจะเสียหายจริงๆ |
การใช้งานที่เหมาะสม:
• เครื่องจักรที่มีการสึกหรอตามระยะเวลาใช้งาน
• เมื่อการตรวจสอบสภาพไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายของเครื่องจักร
เครื่องมือที่จะช่วยในการตรวจสอบสภาพเครื่องจักร
การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์
Predictive Maintenance หรือ การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์
การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ เกี่ยวข้องกับการทดสอบ ตรวจคุณภาพเครื่องจักร ตามตารางเวลาที่กำหนดเป็นประจำ โดยอาจดำเนินการบำรุงรักษาทันทีที่เครื่องจักรเริ่มแสดงสัญญาณของการสึกหรอ วิธีนี้ช่วยป้องกันไม่ให้เครื่องจักรเสียหายหนัก โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรในช่วงเวลาที่เครื่องจักรอยู่ในสภาพที่ดีอยู่แล้ว
ข้อดี: • ไม่สูญเสียเวลาของพนักงานและอุปกรณ์ โดยไม่จำเป็น • ลดเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงาน หรือการ Breakdown maintenance • ลดจำนวนชิ้นส่วนที่ต้องสำรองเก็บ | ข้อเสีย: • อาจมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนก่อนเวลาที่จำเป็น • เครื่องจักรบางประเภทมีแนวโน้มเสียหายอย่างรวดเร็วและต้องการการตรวจสอบที่บ่อยกว่า • บางเครื่องจักรอาจเข้าสู่ภาวะล้มเหลวอย่างรุนแรงได้ในเวลาอันสั้น จึงต้องมีการตรวจสอบโดยละเอียดอย่างสม่ำเสมอ |
เครื่องมือที่จะช่วยในการตรวจสอบสภาพเครื่องจักร
การบำรุงรักษาเชิงรุก
Proactive Maintenance หรือ การบำรุงรักษาเชิงรุก
การบำรุงรักษาเชิงรุก คือการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แทนที่จะรอให้เครื่องจักรเสียหายหรือรอการบำรุงรักษาตามตารางเวลา
การบำรุงรักษาเชิงรุกต้องมีการตรวจสอบสภาพเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการติดตามเครื่องจักรเป็นประจำ
เพื่อให้ทีมงานสามารถตรวจจับข้อบกพร่องก่อนที่จะพัฒนาเป็นความเสียหายที่รุนแรง
ข้อดี: • เน้นการค้นหาสาเหตุหลักของความล้มเหลวของเครื่องจักร • ช่วยส่งเสริมให้สมาชิกในทีมพัฒนาความเชี่ยวชาญและการคุ้นเคยกับเครื่องจักรมากยิ่งขึ้น • ลดค่าใช้จ่ายและเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงาน • รักษาให้เครื่องจักรทำงานในระดับที่ดีที่สุดอย่างสม่ำเสมอ | ข้อเสีย • ต้นทุนสูง: การติดตั้งระบบเซ็นเซอร์และเทคโนโลยีติดตามสภาพเครื่องจักรอย่างต่อเนื่องอาจต้องลงทุนในอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง • ความต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ: การวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบตรวจสอบต้องการทีมงานที่มีความรู้และทักษะเฉพาะด้าน ซึ่งอาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการฝึกอบรม • ความเสี่ยงจากความผิดพลาดของระบบ: หากเซ็นเซอร์หรือระบบติดตามข้อมูลเกิดความผิดพลาด อาจทำให้ได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลต่อการตัดสินใจในการบำรุงรักษา |
เครื่องมือที่จะช่วยในการตรวจสอบสภาพเครื่องจักร
Read Our Latest News
News & Articles
- By Admin Faadtech
- Comments are off for this post.
- By Admin Faadtech
- Comments are off for this post.