ยินดีต้อนรับสู่ ฟอร์เอฟเวอร์ แอนด์ อะเดย์ เทคโนโลยี 

  • จ-ศ: 8.00am to 5.00pm
Search

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน และ การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์

Preventive Maintenance และ Predictive Maintenance

เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและลดการเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีความแตกต่างกันในวิธีการวางแผนและการดำเนินการดังนี้:

ความแตกต่างระหว่าง

Preventive และ redictive

ปัจจัย Preventive Maintenance (PM) Predictive Maintenance (PdM)
วิธีการบำรุงรักษา ทำตามระยะเวลา/รอบการทำงาน ทำเมื่อมีสัญญาณเสื่อมสภาพที่ตรวจพบ
การใช้เทคโนโลยี ไม่ต้องการเทคโนโลยีสูง ต้องการเซ็นเซอร์และเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
ประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง แต่มีการบำรุงรักษาที่อาจไม่จำเป็น มีประสิทธิภาพสูงกว่า เพราะทำเฉพาะเมื่อจำเป็น
ต้นทุน อาจมีค่าใช้จ่ายสูงจากการบำรุงรักษาที่ไม่จำเป็น ลดต้นทุนโดยเลี่ยงการซ่อมที่ไม่จำเป็น

Preventive Maintenance (PM)

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน หรือ Preventive Maintenance (PM) เป็นการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพการใช้งานของเครื่องจักร แต่ใช้การตั้งเวลาเป็นหลัก เช่น บำรุงรักษาทุก 3 เดือน หรือ 6 เดือน ซึ่งการบำรุงรักษารูปแบบนี้จะถูกกำหนดตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือตามประสบการณ์ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพก่อนที่จะเกิดปัญหา

ตัวอย่างงานใน Preventive Maintenance:

01

เปลี่ยนถ่ายของเหลว

   หมายถึง การเปลี่ยนของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ หรือสารหล่อลื่นต่าง ๆ ตามระยะเวลาหรือระยะทางที่ผู้ผลิตแนะนำ เพื่อรักษาสมรรถนะของเครื่องยนต์หรือระบบให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการสึกหรอของชิ้นส่วน.

02

เปลี่ยนอะไหล่ตามอายุการใช้งาน

   การเปลี่ยนชิ้นส่วนหรืออะไหล่ของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์เมื่อถึงระยะเวลาหรือจำนวนการใช้งานที่ผู้ผลิตกำหนด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายหรือการหยุดชะงักในการทำงาน โดยไม่ต้องรอให้ชิ้นส่วนนั้นเกิดปัญหาหรือชำรุดก่อน.

03

ตรวจสอบความตึงของสายพาน

   หมายถึง การตรวจสอบและปรับความตึงของสายพานหรือการจัดตำแหน่งของพูลลี่ (pulley) ให้ถูกต้อง เพื่อให้ระบบขับเคลื่อนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เกิดการเสียดสีหรือการสึกหรอที่ไม่จำเป็น ซึ่งสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของสายพานและชิ้นส่วนต่างๆ ของระบบขับเคลื่อน.

Predictive Maintenance (PdM)

Predictive Maintenance (PdM)

   การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ หรือ Predictive Maintenance (PdM) ใช้เทคโนโลยีการตรวจวัดและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อประเมินสภาพการทำงานของเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง และทำการบำรุงรักษาก็ต่อเมื่อเริ่มมีสัญญาณของการเสื่อมสภาพ ซึ่งมักใช้การวัดต่างๆ เช่น การสั่นสะเทือน อุณหภูมิ การตรวจสอบสารหล่อลื่น และเสียง เพื่อคาดการณ์เวลาที่เครื่องจักรอาจจะมีปัญหา ทำให้สามารถวางแผนบำรุงรักษาเฉพาะเมื่อจำเป็น

ตัวอย่างงานใน Predictive Maintenance:

การตรวจสอบการสั่นสะเทือน (Vibration Analysis)

01

การตรวจสอบการสั่นสะเทือน (Vibration Analysis) หมายถึง กระบวนการวัดและวิเคราะห์การสั่นสะเทือนของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์เพื่อประเมินสภาพการทำงานและตรวจจับความผิดปกติ เช่น การสึกหรอของชิ้นส่วน ความไม่สมดุล หรือความเสียหายของตลับลูกปืน วิธีนี้ช่วยป้องกันการเสียหายรุนแรงและลดเวลาหยุดทำงานโดยการซ่อมบำรุงเชิงป้องกันก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม.

02

การใช้ Machine Learning หรือ AI เพื่อประมวลผลและคาดการณ์การบำรุงรักษา

การใช้ Machine Learning หรือ AI เพื่อประมวลผลและคาดการณ์การบำรุงรักษา เป็นกระบวนการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ เพื่อ คาดการณ์ (Predictive Maintenance) และแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดความเสียหายหรือหยุดทำงาน

03

การวิเคราะห์น้ำมันหล่อลื่น (Oil Analysis)

การวิเคราะห์น้ำมันหล่อลื่น (Oil Analysis) คือกระบวนการตรวจสอบและประเมินคุณสมบัติของน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้งานอยู่ในเครื่องจักร เพื่อวินิจฉัยสภาพการทำงานของเครื่องจักรและคุณภาพของน้ำมันหล่อลื่น โดยช่วยระบุปัญหาและป้องกันการเสียหายก่อนเกิดขึ้น

มีส่วนช่วยอย่างมากกับZero Breakdown หรือ การป้องกันไม่ให้เกิดการหยุดชะงักของเครื่องจักร

ประโยชน์ของการบำรุงทั้งสองแบบ

  Zero Breakdown หรือ การป้องกันไม่ให้เกิดการหยุดชะงักของเครื่องจักร เป็นเป้าหมายสำคัญในระบบการบำรุงรักษาเครื่องจักรในอุตสาหกรรม โดยเน้นการลดโอกาสในการเสียหายหรือหยุดทำงานของเครื่องจักรให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยกลยุทธ์การบำรุงรักษาที่หลากหลายและการมีส่วนร่วมของพนักงานทุกฝ่าย การป้องกันการ Breakdown นี้ไม่เพียงแค่ลดการเสียเวลาและค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดอัตราความเสียหายในการทำงานอีกด้วย

วิธีการป้องกันการเกิด Breakdown ให้เป็นศูนย์ (Zero Breakdown)

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)
40%
การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance)
35%
การตรวจสอบและการทำความสะอาดประจำวัน (Routine Inspection and Cleaning)
25%

1. การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)

การบำรุงรักษาเชิงป้องกันเป็นการวางแผนซ่อมบำรุงตามกำหนดเวลา โดยมีการตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่ต่อเครื่องจักร

2. การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance)

Predictive Maintenance เป็นการใช้เทคโนโลยีอุปกรณ์ และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจสอบสภาพของเครื่องจักร ข้อมูลที่ได้อาจจะถูกวิเคราะห์โดย AI หรือซอฟต์แวร์ Machine Learning เพื่อพยากรณ์การเสื่อมสภาพและเตือนเมื่อใกล้ถึงเวลาที่ควรบำรุงรักษา ช่วยลดโอกาสการเสียหายก่อนเวลาอันควร หรือยืดระยะเวลาการใช้งานของส่วนประกอบต่างๆของเครื่องจักร

3. การตรวจสอบและการทำความสะอาดประจำวัน (Routine Inspection and Cleaning)

การทำความสะอาดและตรวจสอบเครื่องจักรทุกวันช่วยป้องกันการสะสมของฝุ่นละออง สิ่งสกปรก และสิ่งแปลกปลอมที่อาจทำให้เกิดความร้อนสูงหรือความเสื่อมสภาพ และการปนเปื้อน การตรวจเช็คประจำวันยังช่วยให้พนักงานสังเกตเห็นปัญหาเล็กน้อยได้ก่อนที่จะลุกลาม และเกิดการพังของเครื่องจักร
Read Our Latest News

News & Articles

Preventive Maintenance และ Predictive Maintenance เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและลดการเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งมีความแตกต่างกันในวิธีการวางแผนและการดำเนินการดังนี้: ความแตกต่างระหว่าง Preventive และ redictive ปัจจัย Preventive Maintenance (PM) Predictive Maintenance (PdM) วิธีการบำรุงรักษา ทำตามระยะเวลา/รอบการทำงาน
FOREVER AND A DAY TECHNOLOGY

Product