การบำรุงรักษาเครื่องจักร (Maintenance machine)
Maintenance machine
การบำรุงรักษาเครื่องจักรเป็นกระบวนการที่สำคัญในการรักษาประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและใช้งบประมาณการบำรุงรักษาให้เหมาะสมกับการใช้งานของเครื่องจักรนั้น ๆ การบำรุงรักษาเครื่องจักรมีหลายระดับตั้งแต่การดูแลรักษาประจำวันจนถึงการซ่อมบำรุงเมื่อเครื่องจักรมีปัญหาหรือชำรุด ดังนั้นการบำรุงรักษาเครื่องจักรมีประโยชน์หลายด้าน
ประเภทของการบำรุงเครื่องจักร
- Breakdown Maintenance ( การบำรุงรักษาโดยการซ่อมแซมส่วนที่เสีย )
- Planned/Preventive maintenance ( การบำรุงรักษาตามการวางแผน )
- Predictive maintenance ( การบำรุงรักษาโดยการคาดการไว้ )
- Proactive maintenance ( แก้ที่สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา เป็นวิธีสมัยใหม่ )
Breakdown Maintenance
Breakdown Maintenance : หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า การบำรุงรักษาโดยการซ่อมแซมเมื่อเครื่องจักรหรืออุปกรณ์มีการชำรุดหรือเสียหาย เป็นวิธีการบำรุงรักษาที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาทันทีหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น โดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้าหรือกำหนดการที่เป็นทางการ เมื่อมีเครื่องจักรหรืออุปกรณ์เกิดปัญหา การบำรุงรักษาแบบ breakdown maintenance จะทำการซ่อมแซมโดยทันทีเพื่อที่จะทำให้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์กลับมาทำงานได้ในระยะเวลาสั้น ๆ โดยมุ่งเน้นไปที่การซ่อมแซมเพียงพอในขณะที่เครื่องยังอยู่ในสภาพการทำงาน
ข้อดีของการบำรุงรักษาแบบ breakdown maintenance คือ:
- การแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว: เนื่องจากการทำงานซ่อมแซมเกิดขึ้นทันทีหลังจากเกิดเหตุการณ์ จึงช่วยลดเวลาที่เครื่องจักรหยุดทำงานลง
- ลดความเสียหาย: การแก้ไขปัญหาในขณะที่เครื่องยังไม่เสียหายหรือเสียสภาพมากเกินไปอาจช่วยลดความเสียหายในระยะยาวได้
Preventive Maintenance
Preventive maintenance คือ กระบวนการในการบำรุงรักษาที่ดูแลและการซ่อมบำรุงที่เป็นระยะเวลาตามที่ได้กำหนดไว้ เพื่อลดความเสียหายหรือปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ โดยมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างและรักษาสภาพให้กับเครื่องจักรเพื่อลดความเสียหายจากการสูญเสียการทำงานอันไม่คาดคิด และการลดความเสียหายจากการชำรุดหรือการสึกหรอ
บำรุงรักษาแบบนี้จะทำให้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์มีโอกาสที่จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความเสียหายหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซ่อมบำรุงซึ่งเกิดจากปัญหาที่ไม่คาดคิด
ข้อดีของ preventive maintenance ได้แก่:
- ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหา: การตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหรือความเสียหาย
- เพิ่มประสิทธิภาพ: เครื่องจักรที่ได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอมักจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงาน
Predictive maintenance
Predictive maintenance (การบำรุงรักษาแบบ Predictive) คือ กระบวนการที่ใช้การรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อทำนายเวลาที่เครื่องจักรหรืออุปกรณ์จะมีการเสียหายหรือเกิดปัญหา โดยการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เซ็นเซอร์ ระบบสารสนเทศ และการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) เพื่อตรวจจับสัญญาณหรือระบบการทำงานของเครื่องจักรเพื่อทำนายการเสียหายหรือปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนกิจกรรมการบำรุงรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดการหยุดชะงักของเครื่องจักรลงและประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
ข้อดีของ predictive maintenance ได้แก่:
- การวางแผนการบำรุงรักษาที่เหมาะสม: การทำนายเวลาที่เครื่องจักรจะเสียหายช่วยให้สามารถวางแผนการบำรุงรักษาล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสม เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการหยุดชะงักของเครื่องจักร
- ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา: การทำการบำรุงรักษาในขณะที่ปัญหายังไม่รุนแรงช่วยลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
Proactive maintenance
Proactive maintenance (การบำรุงรักษาแบบ Proactive) เป็นกลยุทธ์ในการบำรุงรักษาที่มุ่งเน้นไปที่การเริ่มต้นป้องกันปัญหาหรือความเสียหายก่อนที่จะเกิดขึ้น โดยไม่รอให้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์เสียหายก่อนจะมีการแก้ไข และปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีการนี้ใช้ข้อมูลเชิงพยากรณ์และข้อมูลประวัติการทำงานของเครื่องจักรเพื่อหาวิธีการป้องกันที่เหมาะสม
ความแตกต่างระหว่าง proactive maintenance กับ predictive maintenance คือ proactive maintenance มุ่งเน้นการดำเนินการที่เป็นการป้องกันอย่างเป็นเชิงรุก ในขณะที่ predictive maintenance มุ่งเน้นการทำนายการเสียหายและการแก้ไขก่อนที่จะเกิดปัญหา
ข้อดีของ proactive maintenance ได้แก่:
- การลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหา: การทำการบำรุงรักษาแบบ proactive ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาหรือความเสียหายโดยการทำการเริ่มต้นในขณะที่เครื่องจักรยังมีสภาพดี
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: การป้องกันปัญหาที่เป็นไปได้ล่วงหน้าช่วยให้เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีการหยุดชะงัก
เครื่องตรวจสอบรอยรั่ว Acoustic Imager | Cry Sound CRY2624 เป็นเครื่องมือที่สามารถ กันระเบิดได้ เหมาะสำหรับ อุตสาหกรรม ปิโตเคมี และ อุตสาหกรรม ที่ใช้งานหนัก
การวิเคราะห์ การรั่วไหล
Analytics and reports
Live Motion Amplification®
การวัดการเคลื่อนที่แบบ Pixel to Pixel
การกรองตามความถี่
การแก้ไขปัญหาขั้นสูง
Motion Amplification®
สูงถึง 1400 FPS ในความละเอียดระดับ HD
การวัดการเคลื่อนที่แบบ Pixel to Pixel
ปรับแต่งอุปกรณ์ได้
Live Motion Amplification®
กล้องสามารถทำพร้อมกันได้หลายตัว
การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
การตรวจสอบเหตุการณ์และแจ้งเตือน
Laser shaft alignment AT400
เครื่องมือตั้งศูนย์เพลา 2 แกน ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่ของความแม่นยำและประสิทธิภาพ สำหรับการใช้งานด้านการตั้งศูนย์เพลาต่างๆ
- เพิ่มพลัง และเสริมมาตราฐาน การผลิตและประสิทธิภาพด้วยเซ็นเซอร์ขั้นสูงและการวัดแบบ 2 แกนที่แม่นยำ ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ
- อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็สามารถเข้าใจได้ง่าย เพิ่มประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งาน พึงพอใจมากยิ่งขึ้น
- ขอแนะนำเซ็นเซอร์ 2 แกน ที่บางที่สุดในตลาด โดยมีน้ำหนัก 306 กรัม ด้วยช่วงการวัดที่ 20 เมตร ปฏิวัติการใช้งานที่มีความแม่นยำสูง
เซ็นเซอร์เพิ่มการตรวจจับขนาดใหญ่ขนาด : 20×20 มม. และมีความละเอียดสูง 0.001 มม. ทำให้เหมาะสำหรับการตรวจจับตำแหน่งที่แม่นยำและการใช้งานการวัดต่างๆ
ACOEM : Laser shaft alignment AT400
Read Our Latest News
News & Articles
- By Admin Faadtech
- Comments are off for this post.
- By Admin Faadtech
- Comments are off for this post.